บัตรผ่อนสินค้าที่ไหนดี อัพเดทโปรโมชั่นการสมัครบัตรผ่อนสินค้าที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่

บัตรผ่อนสินค้าคืออะไร 

เมื่อพูดถึงบัตรผ่อนสินค้า หลายคนคงคิดถึงบัตรเครดิตผ่อนสินค้าที่ใช้สำหรับรูดซื้อและผ่อนสินค้า แต่จริง ๆ แล้วบัตรผ่อนสินค้าแตกต่างจากบัตรเครดิต และเพื่อจะเข้าใจมากขึ้น เรามาทำความรู้จักกับบัตรผ่อนสินค้ากันดีกว่า บัตรผ่อนสินค้าคืออะไร บัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรผ่อนของก็คือ บัตรที่ช่วยให้เราซื้อสินค้าได้ผ่านตัวแทน หรือร้านค้าที่เข้าร่วมกับบัตรนั้น ๆ โดยที่เราไม่ต้องสำรองเงินสดในการซื้อสินค้าก่อน หลังจากใช้บัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรผ่อนของในการซื้อสินค้าที่ต้องการแล้ว เราจะทำการผ่อนชำระค่าสินค้าเป็นงวด ๆ ตามที่เงื่อนไขของบัตรผ่อนสินค้าที่เราเลือกใช้กำหนด แต่บัตรผ่อนสินค้าไม่สามารถกดเงินสดได้ และต้องใช้ผ่อนสินค้ากับร้านค้าที่เข้าร่วมกับบัตรเท่านั้น

บัตรผ่อนสินค้าเหมาะกับใคร 

บัตรผ่อนสินค้าเหมาะกับบุคคลทั่วไปที่ฐานเงินเดือนไม่สูงมาก หรือคนที่เริ่มต้นทำงานใหม่ ๆ และรายได้ไม่ถึงเงื่อนไขที่จะสมัครบัตรเครดิตผ่อนสินค้าได้ เพราะบ่อยครั้งคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานก็จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องมือในการทำงานต่าง ๆ เช่น โน้ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และของใช้จำเป็น หากจะต้องรอเก็บเงินซื้อก็คงจะไม่ทันใช้งาน การมีบัตรผ่อนสินค้าดี ๆ ไว้ใช้สักใบจึงเป็นประโยชน์มากที่เดียว เพราะถึงแม้ว่าบัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรผ่อนของจะมีข้อจำกัดในการใช้งานเมื่อเทียบกับบัตรเครดิตผ่อนสินค้า แต่บัตรผ่อนสินค้าก็มีโปรโมชั่นดี ๆ อีกทั้งยังเลือกผ่อนได้นานแบบ 0% ไม่แพ้กับบัตรเครดิตผ่อนสินค้าเลย 

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างบัตรผ่อนสินค้ากับบัตรเครดิตผ่อนสินค้า

ทั้งบัตรผ่อนสินค้า และบัตรเครดิตผ่อนสินค้าต่างก็เป็นบัตรที่ช่วยให้เราสามารถซื้อสินค้าได้ตามต้องการ โดยที่ไม่ต้องสำรองเงินไว้ก่อน แต่ทั้งบัตรผ่อนสินค้า และบัตรเครดิตผ่อนสินค้าก็มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ซึ่งหากเปรียบเทียบกันแล้ว บัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรผ่อนของจะมีข้อจำกัดในการใช้งานมากกว่าบัตรเครดิต คือต้องใช้ผ่อนสินค้ากับร้านค้าที่เข้าร่วมรายการเท่านั้น และเมื่อเปรียบเทียบกับบัตรเครดิตผ่อนสินค้าแล้ว บัตรผ่อนสินค้ามีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง และไม่ค่อยจะมีโปรโมชั่นมากนัก แต่ก็เป็นบัตรที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าบัตรเครดิต เพราะไม่จำเป็นต้องมีรายได้สูงในการสมัคร อีกทั้งสมัครบัตรผ่อนสินค้ายังง่ายกว่า ใช้เอกสารน้อยกว่า และมีการอนุมัติไว้กว่าด้วย 

แนะนำ 4 บัตรผ่อนสินค้าน่าใช้ สมัครง่าย อาชีพอิสระก็สมัครได้ 

ปัจจุบันมีบัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรผ่อนของให้เลือกใช้มากขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้หลากหลายกว่าแต่ก่อน วันนี้จึงอยากจะมาแนะนำ 4 บัตรผ่อนสินค้าดี ๆ น่าใช้ แม้แต่อาชีพอิสระ หรือคนรายได้ไม่สูงก็สมัครได้ มาดูว่ามีบัตรผ่อนสินค้าไหนบ้างที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด 

  • บัตรผ่อนสินค้ากสิกร Xpress Cash บัตรเงินด่วนที่เป็นรวมบัตรกดเงินสดและบัตรผ่อนสินค้าเอาไว้ในบัตรเดียว เงินเดือนสมัครเริ่มต้นเพียง 7,500 บาท ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวก็สมัครบัตรผ่อนสินค้ากสิกรได้แล้ว รูดผ่อนสินค้าดอกเบี้ย 0% นาน 36 เดือน และไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ อีกด้วย

 

  • บัตรผ่อนสินค้า scb m live เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่ทำงานประจำ และเป็นเจ้าของกิจการที่มีรายได้ 15,000 บาทขั้นไป ความพิเศษของบัตรผ่อนสินค้า scb m live คือ ผู้ถือบัตรสามารถแบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน และใช้บัตรผ่อนสินค้า scb m live ได้กับทุกห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ 

 

  • บัตรผ่อนสินค้าอิออน บัตรผ่อนสินค้าที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะสมัครบัตรผ่อนสินค้าง่าย รายได้ต่อเดือนเริ่มต้นที่ 8,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งยังเลือกระยะเวลาผ่อนสินค้าได้นานสูงสุด 84 เดือน กับร้านค้าที่มีสัญญาลักษณ์อิออนทั่วประเทศ 

 

  • บัตรโลตัสบัตรผ่อนสินค้า “บัตรสินเชื่อเทสโก้ โลตัส พรีเมียร์” บัตรที่ให้ผู้ถือบัตรเลือกผ่อนสินค้าได้ตามความต้องการ และเมื่อสมัครบัตรโลตัสผ่อนสินค้าจะได้รับสิทธิพิเศษผ่อนสินค้า 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน แถมยังรักวงเงินพร้อมใช้ในรูปแบบของบัตรกดเงินสดได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นทั้งบัตรผ่อนสินค้าและบัตรกดเงินสดได้ในใบเดียว 

ข้อควรรู้ก่อนการใช้บัตรผ่อนสินค้า 

คนเรามีหลายทางเลือกในการซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นซื้อด้วยเงินสด เก็บเงินซื้อ การใช้บัตรเครดิตผ่อนสินค้า การขอสินเชื่อ และการใช้บัตรผ่อนสินค้า ซึ่งข้อดีของการใช้บัตรผ่อนสินค้าก็มีหลายอย่าง เช่น ไม่ต้องจ่ายด้วยเงินสด แบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ได้ และบางครั้งบัตรผ่อนสินค้าก็มีโปรโมชั่นผ่อน 0% แบบไม่เสียดอกเบี้ยด้วย แม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่เราก็ต้องรู้จักการใช้บัตรผ่อนสินค้าให้เป็นด้วย
อย่างแรกที่ต้องคิดถึงเลยก็คือ อัตราดอกเบี้ยของบัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรผ่อนของ เมื่อจะใช้บัตรผ่อนสินค้าอย่าคิดแค่ราคาของสินค้าที่เราจะผ่อนเท่านั้น เราต้องคำนวณอัตราดอกเบี้ยรวมไปด้วย จะได้วางแผนและดูกำลังทรัพย์ของตัวเอง ว่าจะมีกำลังพอในการผ่อนชำระหรือไม่ ไม่อย่างนั้นเราอาจจะเป็นหนี้บัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรผ่อนของโดยไม่รู้ตัว และเมื่อขาดการวางแผนในการผ่อนชำระ หนี้บัตรผ่อนสินค้าก็จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาจจะโดนค่าปรับหากผ่อนชำระไม่ตรงเวลาอีกด้วย